น่าเสียดายที่โรคของปาก ฟัน และเหงือกนั้นพบได้บ่อยในแมวบ้าน เจ้าของสัตว์เลี้ยงที่มีขนยาวต้องระบุโรคให้ทันเวลาและเริ่มการรักษาที่ถูกต้อง
คำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 1
ตรวจปากแมว. เหงือกและลิ้นอักเสบ ก้อนสีแดง แผลเปื่อย เป็นอาการของโรคปากเปื่อย แมวที่เป็นโรคปากเปื่อยจะกินอาหารแย่ลงและไม่ย่อยอาหารได้ดี นอกจากนี้ แมวยังมีกลิ่นปาก น้ำลายไหล และในกรณีที่รุนแรงอาจมีเลือดออก
ขั้นตอนที่ 2
บ้วนปากของสัตว์ด้วยสารละลายโพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนตอ่อน ๆ เพื่อฆ่าเชื้อ หล่อลื่นเหงือกด้วยสารละลายคลอเฮกซิดีน 0.05% สารละลายไดออกซิดีน 1% น้ำมันฟอสพรีนิลหรือน้ำมันทะเล buckthorn วันละ 2 ครั้ง เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้ใช้สำลีชุบน้ำยาเช็ดฟันและเหงือกและฟันเบาๆ
ขั้นตอนที่ 3
หล่อลื่นแผลบนเหงือกด้วยสารละลายดาวเรืองหรือดอกคาโมไมล์ โลชั่นสมุนไพรช่วยรักษาบาดแผลและลดอาการของโรคเหงือกได้
ขั้นตอนที่ 4
ตรวจเหงือกที่โคนฟัน. หากมีแกรนูโลมาเกิดขึ้น นอกจากนี้ แมวมีไข้ เบื่ออาหาร แมวของคุณอาจเป็นโรคปริทันต์อักเสบ
ขั้นตอนที่ 5
บ้วนปากเป็นประจำด้วยโพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนต หล่อลื่นเหงือกด้วยไอโอดีน-กลีเซอรีนหรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เสริมไอโอดีน ล้างเหงือก ลิ้น และฟันด้วยการแช่สะระแหน่ โป๊ยกั๊ก บัคธอร์น บัคธอร์น ในระยะที่ใช้งานของการอักเสบ ให้ล้างปากด้วยยาต้มของดอกคาโมไมล์และสาโทเซนต์จอห์น
ขั้นตอนที่ 6
ตรวจสอบฟันของแมว. คราบจุลินทรีย์ที่เป็นผลึกคอลลอยด์สีเข้มเป็นหินปูนที่เกิดจากการอักเสบของขอบเหงือกหรือการละเมิดการเผาผลาญของแร่ธาตุ เคลือบฟันส่วนใหญ่พัฒนาบนพื้นผิวด้านข้างของฟันและเขี้ยว
ขั้นตอนที่ 7
ขจัดแคลคูลัสด้วยสำลีชุบสารละลายไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 3% สำหรับการป้องกัน ให้อาหารแมวที่มีไฟโตมิเนอรัลด้วยราก calamus สำหรับกระดูกและฟัน นอกจากนี้ ให้เช็ดฟันด้วยยาต้มจากใบสตรอเบอร์รี่ป่า, ต้นอูเบอร์เบอร์รี่สีดำ, เสจสมุนไพร, ดอกคาโมไมล์จากร้านขายยา