เป็นเวลานานในรัสเซีย บรรพบุรุษของเราชอบเนื้อนกกระทาและเตรียมอาหารที่ยอดเยี่ยมจากมัน นกกระทาถูกจับได้ระหว่างการล่า แต่วันนี้การเพาะพันธุ์นกกระทาเป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้ค่อนข้างมาก ตัวเมียห้าตัวให้ไข่โดยน้ำหนักเท่ากับไก่ตัวหนึ่งให้ ควรพิจารณาว่านกกระทาเติบโตเร็วกว่าไก่ถึงสามเท่าและบริโภคอาหารน้อยกว่ามาก การรักษานกกระทานั้นค่อนข้างง่าย คุณเพียงแค่ต้องคำนึงถึงกฎเกณฑ์บางประการ
มันจำเป็น
- - นกกระทา
- - ตู้ฟัก,
- - ฟีด
- - เซลล์,
- - สถานที่
คำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 1
ในการเลี้ยงและเพาะพันธุ์นกกระทาคุณต้องมีห้องที่ควรรักษาอุณหภูมิตลอดทั้งปี 17-22 องศาและความชื้นสัมพัทธ์ 60-70% หากจำนวนนกมากถึง 20 ตัว สถานที่สำหรับเลี้ยงนกอาจเป็นมุมใดก็ได้ของบ้านหรืออพาร์ตเมนต์ส่วนตัว ซึ่งคุณสามารถวางกรงขนาด 40x60 เซนติเมตรได้ หากจำนวนนกกระทาอยู่ระหว่าง 500 ถึง 1,000 คุณจะต้องมีห้องขนาด 15 ตารางเมตร ซึ่งคุณจะต้องติดตั้งแบตเตอรี่เซลล์สูงสุด 10 ก้อน นอกจากนี้ จำเป็นต้องมีสถานที่สำหรับเก็บอาหาร วางตู้ฟักไข่ และเก็บสต็อคที่ยังอ่อนอยู่
ขั้นตอนที่ 2
เพื่อให้ได้ไข่นกกระทาอย่างสม่ำเสมอ คุณต้องเลือกพันธุ์นกกระทาที่มีการผลิตไข่เพิ่มขึ้น สำหรับวัตถุประสงค์เหล่านี้ พันธุ์หินอ่อนสีน้ำเงิน ไข่ทักซิโด้ อังกฤษแมนจูสีทองและสีขาวนั้นเหมาะสม หากเป้าหมายหลักคือการได้เนื้อนกกระทา คุณต้องเลือกสายพันธุ์เนื้อ เช่น ฟาโรห์
ขั้นตอนที่ 3
กรงที่จะมีนกกระทาสามารถทำด้วยมือ สิ่งนี้จะต้องใช้ไม้อัด ตาข่ายสังกะสี แผ่นโลหะชุบสังกะสีและอุปกรณ์ ควรพิจารณาว่ามีการใส่นกกระทาประมาณ 100 ตัวในแบตเตอรี่ก้อนเดียว พื้นกรงควรปูด้วยหญ้าแห้งหรือขี้เลื่อย
ขั้นตอนที่ 4
การเพาะพันธุ์และการเลี้ยงนกกระทาต้องได้รับการดูแลทุกวัน ซึ่งรวมถึงการทำความสะอาดมูล การให้อาหาร การเก็บไข่ และการตรวจนกกระทา สิ่งสำคัญคือต้องรักษาอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสม เตรียมอาหาร และจัดตำแหน่งนกเมื่อลูกโต และแน่นอน หากเลี้ยงสัตว์ปีกเพื่อเป็นเนื้อสัตว์ คุณต้องฆ่าและแล่เนื้อนกกระทา ทั้งหมดนี้ใช้เวลานานมาก
ขั้นตอนที่ 5
เนื่องจากนกกระทาไม่ได้ถูกปรับให้เข้ากับการฟักไข่ คุณจึงต้องมีตู้ฟักไข่ หากคุณไม่มีโอกาสซื้ออุปกรณ์ดังกล่าวคุณสามารถซื้อนกกระทาหนุ่มจากผู้ผลิตได้ ในกรณีนี้การดูแลนกกระทาจะง่ายกว่ามาก
ขั้นตอนที่ 6
นกกระทาชอบว่ายน้ำในทรายแห้ง สิ่งนี้จะต้องนำมาพิจารณาเมื่อทำการบำรุงรักษาให้ใส่อ่างขนาดเล็กที่มีทรายแห้งเป็นระยะซึ่งความหนาควรอยู่ที่ 5-7 เซนติเมตร
ขั้นตอนที่ 7
คุณต้องให้อาหารนกกระทาวันละสองครั้งด้วยอาหารไข่เมล็ดพืชบดหรือสมุนไพร อย่าลืมติดตั้งเครื่องดืม